ช่างแอร์ใกล้ฉันถนนจักรพรรดิพงษ์ ซ่อมแอร์ย้ายแอร์" || "ร้านแอร์บ้าน ช่างฝีมือดี
ช่างปั้มน้ำถนนจักรพรรดิพงษ์ บริการซ่อมแซมท่อประปาซ่อมปั้มน้ำ24ชั่วโมง
แอร์บ้านถนนจักรพรรดิพงษ์
ติดตั้งแอร์ถนนจักรพรรดิพงษ์
ร้านแอร์ถนนจักรพรรดิพงษ์
ร้านแอร์ใกล้ฉันถนนจักรพรรดิพงษ์
แอร์ไม่เย็นถนนจักรพรรดิพงษ์
ช่างถนนจักรพรรดิพงษ์ซ่อมแอร์ไม่เย็นมีแต่ลม
ช่างถนนจักรพรรดิพงษ์ซ่อมคอมแอร์ไม่ทํางาน
แอร์ไม่ตัดช่างถนนจักรพรรดิพงษ์
แอร์ไม่เย็นฉ่ำช่างถนนจักรพรรดิพงษ์
ติดต่อจองคิวช่างรวย
ซ่อมไฟฟ้าด่วนถนนจักรพรรดิพงษ์ ซ่อมไฟฟ้าราคาถูก" || "ซ่อมไฟช็อต ไฟดับ ช่างฝีมือดี
ช่างไฟฟ้าบ้าน office ร้านค้า ร้านอาหาร รับซ่อมแก้ไขไฟรั่วไฟดูดไฟช็อตไฟดับ ค่าบริการในการแก้ไขเร่ง ค่าบริการเร่งด่วน ช่างระบบไฟฟ้า ซ่อมแซม/แก้ไข สายไฟชำรุด ไฟช็อต ไฟรั่ว ปลั๊กชำรุด บริการซ่อมด่วน
ร้านซ่อมไฟฟ้าใกล้ฉันถนนจักรพรรดิพงษ์
ซ่อมไฟฟ้าภายในบ้านถนนจักรพรรดิพงษ์
ถนนจักรพรรดิพงษ์ซ่อมไฟฟ้า 24 ชั่วโมง
ซ่อมไฟบ้านถนนจักรพรรดิพงษ์
ถนนจักรพรรดิพงษ์ช่างซ่อมไฟฟ้าใกล้ฉัน
ช่างซ่อมไฟฟ้าภายในบ้านถนนจักรพรรดิพงษ์
ซ่อมบ้านไฟดับถนนจักรพรรดิพงษ์
ซ่อมไฟซ๊อตถนนจักรพรรดิพงษ์
ซ่อมแอร์ด่วนถนนจักรพรรดิพงษ์ ซ่อมแอร์ราคาถูก" || "ซ่อมแอร์บ้าน ช่างฝีมือดี
ช่างแอร์บ้านถนนจักรพรรดิพงษ์ ล้างแอร์บ้าน ซ่อมแอร์บ้าน ขายแอร์บ้าน ย้ายแอร์ เติมน้ำยาแอร์ ถอดแอร์ ติดตั้งแอร์บ้าน ล้างแอร์ออฟฟิศ จำหน่ายเครื่องปรับอากาศ ทุกรุ่น
ล้างแอร์ถนนจักรพรรดิพงษ์
ล้างแอร์บ้านถนนจักรพรรดิพงษ์
ล้างแอร์ราคาถนนจักรพรรดิพงษ์
ล้างแอร์ใกล้ฉันถนนจักรพรรดิพงษ์
ซ่อมแอร์ถนนจักรพรรดิพงษ์
แอร์ไม่เย็นถนนจักรพรรดิพงษ์
คอมแอร์ไม่ทํางานถนนจักรพรรดิพงษ์
แอร์ไม่เย็นมีแต่ลมถนนจักรพรรดิพงษ์
แอร์บ้านถนนจักรพรรดิพงษ์
แอร์ติดเพดานถนนจักรพรรดิพงษ์

รับซ่อมปัั้มน้ำถนนจักรพรรดิพงษ์ และจำหน่ายอะไหล่ปั้มน้ำอัตโนมัติ
ช่างประปาถนนจักรพรรดิพงษ์ ช่างปั้มน้ำ บริการซ่อมแซมท่อประปาซ่อมปั้มน้ำ24ชั่วโมง
รับออกแบบงานตู้คอนโทรลปั๊มน้ำถนนจักรพรรดิพงษ์ งานระบบประปา งานไฟฟ้า ซ่อมปั้มน้ำ รับเหมางานระบบประปา ไฟฟ้า เดินท่อประปา pe pvc ppr สุขาภิบาล ประกอบชูตเตอร์
ช่างซ่อมปั้มน้ำถนนจักรพรรดิพงษ์
ร้านซ่อมปั๊มน้ำใกล้ฉันถนนจักรพรรดิพงษ์
ถนนจักรพรรดิพงษ์ซ่อมปั๊มน้ำราคา
วิธีซ่อมปั๊มน้ำรั่วถนนจักรพรรดิพงษ์

ถนนจักรพรรดิพงษ์ซ่อมปั๊มน้ำ ITCปั้มน้ำอัตโนมัติแรงดันคงที่
ถนนจักรพรรดิพงษ์ซ่อมปั๊มน้ำ MITSUBISHIปั๊มน้ำอัตโนมัติ
ถนนจักรพรรดิพงษ์ซ่อมปั๊มน้ำ HITACHIปั๊มน้ำ
ถนนจักรพรรดิพงษ์ซ่อมปั๊มน้ำ FUJIKAปั๊มน้ำ
ถนนจักรพรรดิพงษ์ซ่อมปั๊มน้ำ TORQUEปั๊มน้ำ
ถนนจักรพรรดิพงษ์ซ่อมปั๊มน้ำ PUMPKINปั๊มน้ำ
ถนนจักรพรรดิพงษ์ซ่อมปั๊มน้ำ ELECTRAปั๊มน้ำ
ในปัจจุบัน ปั๊มน้ำอัตโนมัติ มีกี่แบบ ?
1. ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ถังความดัน
“ปั๊มน้ำอัตโนมัติถังความดัน” หรือเรียกอีกอย่างว่า “ปั๊มน้ำถังกลม”
2. ปั๊มน้ำอัตโนมัติ แรงดันคงที่
“ปั๊มน้ำอัตโนมัติแรงดันคงที่” หรือเรียกอีกอย่างว่า “ปั๊มน้ำถังเหลี่ยม”

เรื่องน่ารู้กับการซ่อมแอร์เบื้องต้น
ก่อนอื่นมาดูกันว่าปัญหาแอร์เสียที่พบได้บ่อยที่สุดมีอะไรบ้าง แล้วเราจะสามารถจัดการแก้ไขเบื้องต้นได้อย่างไรในกรณีที่ปัญหาเหล่านั้นไม่ได้รุนแรงจนต้องใช้บริการจากช่างมืออาชีพเสมอไป โดยอาการที่พบบ่อยมีดังนี้
1. เครื่องปรับอากาศไม่ทำงาน ถือเป็นปัญหาอันดับต้นที่พบเจอได้บ่อย โดยอาจพบว่าเครื่องไม่ทำงานตามปกติ สาเหตุอาจเกิดจากฟิวส์ขาด แผงวงจรแอร์ใช้งานไม่ได้ ลวดหลวมไป หรือเทอร์โมสแตทมีปัญหา หากเป็นเช่นนี้ อาจต้องปรับรีเซ็ตระบบทั้งหมดหรือเปลี่ยนอะไหล่ใหม่
2. แอร์ไม่เย็น อาจเกิดจากตัวทำความเย็นทำงานได้ไม่ดี มีประสิทธิภาพต่ำ หรือมีรอยรั่วก็ได้
3. คอนเดนเซอร์ร้อน หากคอนเดนเซอร์ (Condenser) เกิดปัญหาหรือคอยล์ร้อน มักส่งผลให้เครื่องปรับอากาศปล่อยลมแอร์ร้อนออกมาได้ รวมทั้งยังอาจปล่อยฝุ่นหรือสิ่งสกปรกอื่นออกมาด้วย เพราะตัวคอนเดนเซอร์ติดตั้งอยู่ด้านนอก
4. แอร์เสียงดัง มักเกิดจากใบพัดพัดลมในเครื่องระเบิด ส่งผลให้อีวาพอเรเตอร์ (Evaporator) หรือคอยล์เย็นทำงานผิดปกติ มีสิ่งสกปรกเข้าไปตกค้างภายในเครื่อง เมื่อใบพัดพัดก็จะเกิดเสียงดังอออกมา หากเกิดเช่นนี้อาจต้องปิดเครื่องและเรียกช่างซ่อมแอร์มาดู
5. ท่อแอร์รั่วหรือสกปรก หากคุณรู้สึกว่าเครื่องปรับอากาศทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร มักมีลมอุ่น ๆ หรือบางที่อุ่น บางที่เย็น นั่นก็เพราะลมแอร์ไหลออกมาได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งเกิดจากปัญหาท่อแอร์รั่วหรือมีสิ่งสกปรกอุดตันอยู่ภายในท่อแอร์นั่นเอง

เมื่อแอร์เครื่องหนึ่งถูกนำมาติดตั้งใช้งาน
และหลังจากใช้งานไปสักพัก ก็มีเหตุจำเป็นให้ต้องถอดแอร์เครื่องดังกล่าวออกจากจุดที่ติดตั้ง โดยที่แอร์เครื่องนั้นยังคงสามารถใช้งานได้อย่างปกติ ซึ่งการถอดออกนี้ไม่ว่าจะเป็นการถอดออกเพื่อเก็บไว้ หรือถอดออกนำไปติดตั้งยังสถานที่อีกแห่งนั้น จำเป็นต้องมีการถอดลงมาอย่างถูกต้อง และเก็บอย่างเหมาะสม
ที่ต้องมีขั้นตอนในการถอดอย่างเหมาะสม ก็เพราะเนื่องจากแอร์ไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบทั่วๆไป ที่เพียงจะคลายสกรูที่ยึดติดแล้วแค่ปลดสายไฟก็ถอดออกมาได้ แต่เพราะว่าแอร์แบบที่ใช้กันในปัจจุบันมีระบบท่อน้ำยาหรือท่อทางเดินของสารทำความเย็นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งการจัดการที่ไม่ถูกต้องนั้น อาจส่งผลเสียต่อแอร์และต่อผู้ปฏิบัติงานได้นั่นเอง
ในบทความชุดนี้ผู้เขียนจะขอกล่าวถึง การถอดย้ายแอร์แบบที่ไม่ถูกต้อง โดยปล่อยแรงดันน้ำยาหรือสารทำความเย็นออกมาทิ้งสู่บรรยากาศภายนอก ซึ่งไม่ได้ทำการไว้ในที่ที่เหมาะสมและส่วนใหญ่การถอดแบบปล่อยน้ำยาทิ้ง ก็มักจะเป็นการถอดลงมาด้วยตนเองโดยผู้ใช้งานหรือผู้ที่ไม่ได้เป็นช่างแอร์ ซึ่งไม่มีความรู้ความเข้าใจในระบบแอร์
ซึ่งถ้าหากเป็นการถอดด้วยตนเองโดยที่ผู้ถอดไม่มีความรู้ความเข้าใจในระบบแอร์ เกือบจะทุกรายก็มักจะถอดและเก็บอย่างผิดวิธี
การถอดแอร์โดยที่ไม่ได้เก็บน้ำยาหรือสารทำความเย็นไว้ในชุดคอยล์ร้อน (Condensing Unit) ทำให้สารทำความเย็นที่มีแรงดันสูงในระบบ ถูกปล่อยออกมาทิ้งสู่บรรยากาศภายนอก
ซึ่งหลายท่านที่เคยทำการถอดแอร์ลงมาด้วยตนเองและปล่อยสารทำความเย็นในระบบทิ้ง ก็มักจะปล่อยสารทำความเย็นออกมาทางวาล์วลูกศรหรือบางรายก็อาจจะใช้การคลายเกลียว(แฟร์) ที่เป็นจุดต่อในระบบท่อแอร์ เพื่อเปิดทางให้สารทำความเย็นแรงดันสูงออกมานั่นเอง แต่บางรายที่เลวร้ายสุดคือการหักหรือบิดท่อทองแดงให้มีรอยแตกเพื่อให้แรงดันในระบบพุ่งทะลักออกมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งการทำเช่นนี้อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ที่ปฏิบัติงานได้
แต่ไม่ว่าจะเป็นการระบายแรงดันสารทำความเย็นออกด้วยช่องทางใดก็ตาม ก็ล้วนมีผลเสียตามมาหลายอย่างด้วยกันผลเสียอย่างแรกสุดคงหนีไม่พ้น ผลเสียต่อระบบแอร์ เพราะการปล่อยแรงดันสารทำความเย็นออกสู่บรรยากาศนั้น หากไม่มีการควบคุมการระบายแรงดันอย่างช้าๆทีละน้อย แต่ปล่อยให้แรงดันในระบบพุ่งทะลักออกมาที่ละมากๆ แรงดันสารทำความเย็นที่พุ่งทะลักออกมานั้น ไม่ได้ออกมาเฉพาะแค่สารทำความเย็น แต่มันได้นำพาน้ำมันหล่อลื่นที่รวมอยู่ในระบบ ให้ไหลทะลักออกมาพร้อมกันด้วย และจนกว่าที่แรงดันในระบบจะถูกระบายออกมาจนหมด ระหว่างนั้นก็ทำให้น้ำมันจำนวนไม่น้อยไหลจามออกมา
เมื่อมีการนำแอร์เครื่องนั้นไปติดตั้งในสถานที่ใหม่ หลายท่านก็คงทราบดีว่าการนำมาติดตั้งใหม่ก็ต้องเดิมสารทำความเย็นหรือน้ำยาเข้าไปใหม่ แต่...สำหรับน้ำมันหล่อลื่นในระบบ ที่ออกมาพร้อมกับการปล่อยสารทำความเย็นทิ้งในครั้งก่อน ส่วนใหญ่แล้วในกรณีที่นำแอร์เครื่องนั้นไปใช้ในอีกสถานที่หนึ่ง น้ำมันส่วนที่ขาดหายนี้มักจะไม่ค่อยถูกเติมเพิ่มเข้าไป เพราะในงานติดตั้งของจริงมักจะไม่มีการวัดปริมาณน้ำมันที่เหลืออยู่ในระบบ และเราก็ไม่ทราบว่าในระหว่างที่น้ำมันพุ่งออกมาพร้อมแรงดันสารทำความเย็นนั้น น้ำมันส่วนที่ออกมานั้น หายออกไปจากระบบปริมาณเท่าไหร่ในส่วนของน้ำมันที่ว่ามานั้นก็คือน้ำมันหล่อลื่น หรือเรียกกันทั่วไปว่า “น้ำมันคอมเพรสเซอร์” เป็นน้ำมันหล่อลื่นสูตรเฉพาะสำหรับการใช้งานในระบบเครื่องทำความเย็น น้ำมันที่ว่านี้จะที่ถูกบรรจุเข้าไปในระบบแอร์ โดยส่วนใหญ่แล้วน้ำมันหล่อลื่นจะถูกตวงและบรรจุมาจากโรงงานที่ผลิตคอมเพรสเซอร์
น้ำมันหล่อลื่นที่ใส่เข้าไปนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้มันหมุนเวียนในระบบไปพร้อมๆกับสารทำความเย็นที่ไหลเวียนในขณะที่เครื่องทำงาน ทำหน้าที่หล่อลื่นและระบายความร้อน ให้กับชิ้นส่วนภายในคอมเพรสเซอร์นั่นเอง
หากปริมาณของน้ำมันในระบบมีอยู่ไม่เพียงพอตามที่ผู้ผลิตได้ออกแบบและกำหนดไว้ ก็จะส่งผลให้เกิดการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในคอมเพรสเซอร์ก่อนเวลาอันควร และในการใช้งานต่อเนื่อง ปริมาณน้ำมันที่มีน้อยจนเกินไปอาจจะไหลเวียนและระบายความร้อนให้กับคอมเพรสเซอร์ได้ไม่ทันต่อความต้องการ ซึ่งกรณีที่เลวร้ายที่สุดก็อาจจะนำมาสู่ปัญหาที่เรียกว่า “คอมเพรสเซอร์น็อก” และหากเป็นเช่นนี้ จะต้องเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ใหม่ ซึ่งการเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ในรายของแอร์ที่ใช้กันอยู่ตามบ้านนั้น ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์หนึ่งครั้ง อาจจะคิดออกมาได้ที่ราวๆ 30-40 % ของราคาแอร์ทั้งชุดเลยก็เป็นได้
และการปล่อยสารทำความเย็นออกมาทิ้งนั้น นอกจากจะมีความเสียงที่แอร์เครื่องนั้นจะนำไปใช้งานต่อได้ในเวลาไม่นานก็ชำรุจ ยังมีข้อเสียที่เป็นผลกระทบที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึง ในกรณีที่เป็น R-22 ซึ่งมีส่วนผสมของสาร CFCs หรือสารคลอโรฟลูออโรคาร์บอน การปล่อยสารทำความเย็นออกมาสู่บรรยากาศ เป็นส่วนหนึ่งของการก่อให้เกิดสภาวะเรือนกระจก ซึ่งบางท่านอาจจะเถียงโดยมีความคิดว่า “ก็แค่แอร์เครื่องเดียวจะไปมีผลอะไร” ซึ่งหากใครคิดเช่นนี้อยู่ ผู้เขียนเองก็ขอถามกลับไปว่า... “แอร์ที่ใช้ R-22ทั้งโลกนี้มันมีแต่ของคุณอยู่เพียงเครื่องเดียวหรือเปล่า” ? อย่าลืมว่ามันไม่ได้มีใช้กันอยู่เครื่องเดียวและหากทุกคนต่างคิดแบบนี้ ก็ไม่ได้มีคนๆเดียวที่ปล่อยมันทิ้งสู่บรรยากาศ
มาถึงการถอดย้ายแอร์อย่างถูกวิธี ก่อนที่จะถอดระบบไฟฟ้า และระบบท่อสารทำความเย็นออก จะต้องมีการเก็บสารทำความเย็นหรือน้ำยา ให้อยู่ในชุดคอยล์ร้อน (Condensing Unit) เป็นวิธีที่เรียกกันในภาษาช่างว่า “ปั๊มดาวน์”
ขั้นตอนคร่าวๆของการปั๊มดาวน์ผู้เขียนจะขออธิบายให้พอเข้าใจเบื้องตน คือก่อนการปั๊มดาวน์จะต้องมีการเดินเครื่องก่อนเพื่อให้สารทำความเย็นไหลวนในระบบสักพัก ซึ่งขั้นตอนนี้จำเป็นต้องมีเกจแมนิโฟลด์ต่อวัดแรงดันในระบบด้วย เมื่อเดินเครื่องจนระดับแรงดันในระบบคงที่แล้ว จากนั้นจึงทำการหมุนปิดวาล์วของท่อด้านที่อัดสารทำความเย็นออกมา แล้วสังเกตที่หน้าปัดของเกจแมนิโฟลด์ค่าแรงดันจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ และเมื่อค่าที่แสดงเข้าใกล้ 0 ให้รีบทำการหมุนปิดวาล์วของท่อด้านดูดทันที และจากนั้นต้องตัดการจ่ายไฟหรือปิดสวิทช์เพื่อให้เครื่องหยุดทำงานอย่ารวดเร็ว เพราะการปล่อยให้เครื่องเดินต่อไปโดยที่วาล์วถูกปิดส่งผลให้แรงดันไม่มีการไหลเวียนตามวัฎจักร ซึ่งถ้ายังปล่อยให้เครื่องทำงานต่อไปอีกจะส่งผลทำให้แรงดันในระบบสูงมากขึ้นเรื่อยๆจนอาจจะระเบิดได้

ช่างแอร์ถนนจักรพรรดิพงษ์ สุดถนน ป้อมปราบศัตรูพ่าย
ชื่อเขต "ป้อมปราบศัตรูพ่าย" ตั้งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ป้อมป้องกันข้าศึกที่ตั้งอยู่ใต้ตลาดนางเลิ้งบ้านญวน ใกล้สะพานนพวงศ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดป้อมที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างขึ้นตลอดฝั่งคลองผดุงกรุงเกษม (คูพระนครใหม่ในสมัยนั้น) ต่อมาเมื่อตัวเมืองขยายออกไปมากขึ้นและความจำเป็นในการป้องกันศัตรูด้วยป้อมปราการก็หมดไป ป้อมนี้จึงถูกรื้อลงพร้อมกับป้อมอื่น ๆ
เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เป็นหนึ่งในห้าสิบเขตของกรุงเทพมหานคร ถือเป็นเขตอนุรักษ์เมืองเก่า แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมทางฝั่งพระนคร
ชื่อเขต "ป้อมปราบศัตรูพ่าย" ตั้งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ป้อมป้องกันข้าศึกที่ตั้งอยู่ใต้ตลาดนางเลิ้งบ้านญวน[3] ใกล้สะพานนพวงศ์[4] ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดป้อมที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างขึ้นตลอดฝั่งคลองผดุงกรุงเกษม (คูพระนครใหม่ในสมัยนั้น) ต่อมาเมื่อตัวเมืองขยายออกไปมากขึ้นและความจำเป็นในการป้องกันศัตรูด้วยป้อมปราการก็หมดไป ป้อมนี้จึงถูกรื้อลงพร้อมกับป้อมอื่น ๆ